หากใครที่ชื่นชอบการดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ อาจจะต้องคุ้นหู หรือเคยได้ยินสารบำรุงผิวที่มีชื่อว่า Hyaluronic acid หรือกรดไฮยาลูรอนิก กันมาบ้างแล้วอย่างแน่นอน เนื่องจาก Hyaluronic acid เป็นสาระสำคัญที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย และมีบทบาทหลักในการช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ ทำให้ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใสใบหน้าดูเด็กอยู่เสมอ นอกไปจากนี้ยังมีการสังเคราะห์เลียนแบบ Hyaluronic acid เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพกันอย่างหลากหลาย Hyaluronic acid คืออะไร? ดีต่อผิวจริงไหม Hyaluronic acid ช่วยเรื่องอะไร? การใช้ Hyaluronic acid เพื่อประโยชน์ด้านความงามเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่? มาดูคำตอบได้ในบทความนี้จาก Wandee Clinic (วันดี คลินิก)
สารบัญ
Hyaluronic acid คืออะไร?
Hyaluronic acid หรือ กรดไฮยาลูรอนิก คือ สารสำคัญชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติในผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) จัดเป็นโมเลกุลของน้ำตาชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า polysaccharide พบได้มากที่บริเวณเนื้อเยื่อภายนอกเซลล์ (Cell) ทำหน้าที่ช่วยยึดจับโปรตีน และคอลลาเจน (Collagen) ภายใต้ชั้นผิวเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผิวคงความยืดหยุ่น ผิวดูอ่อนเยาว์ได้อยู่เสมอ นอกไปจากนี้ Hyaluronic acid หรือ กรดไฮยาลูรอนิก ยังมีคุณสมบัติเป็นสารดูดความชื้น (Humectant) ที่สามารถดูดความชุ่มชื้นจากบรรยากาศ หรือสภาพแวดล้อมที่อยู่โดยรอบมากักเก็บเอาไว้กับตัว ได้มากถึง 1,000 เท่า กรดไฮยาลูรอนิกจึงมีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ผิวจึงดูเต่งตึงและมีวอลลุ่มได้อย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม Hyaluronic acid ที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เองในผิวหนัง ชั้นหนังแท้จะเริ่มสลายตัวและลดน้อยลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น หรือในบางรายที่ต้องเจอกับปัจจัยทำร้ายผิวเป็นประจำทุกวัน เช่น รังสี UV ในแสงแดด มลภาวะ ฝุ่น ควัน สารพิษและสารเคมี ความเครียดสะสม การนอนหลับพักผ่อนน้อย ฯลฯ ก็จะยิ่งทำให้ปริมาณ Hyaluronic acid ที่พบในชั้นผิวลดน้อยลงก่อนเวลาอันควร ส่งผลให้ผิวเริ่มขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งเสียหยาบกร้าน ดูหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ผิวสูญเสียปริมาตร และขาดความยืดหยุ่น อันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาริ้วรอยร่องลึก ผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
สารสังเคราะห์เลียนแบบ Hyaluronic acid ในธรรมชาติ คืออะไร
จากปัญหาผิวและปัญหาสุขภาพบางประการที่เกิดขึ้นเมื่อ Hyaluronic acid ในร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ และมีปริมาณลดน้อยลงจนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งเสียหยาบกร้าน ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ เกิดริ้วรอยร่องลึกส่งผลให้หน้าดูแก่กว่าวัย จึงได้มีการคิดค้นและสังเคราะห์กรดไฮยาลูรอนิกเลียนแบบสารเดิมที่มีอยู่ในร่างกาย ด้วยการใช้กระบวนการหมักของแบคทีเรีย และนำมาผ่านกระบวนการเพื่อทำให้กรดไฮยาลูรอนิกสังเคราะห์มีค่าความบริสุทธิ์สูง สามารถนำมาใช้กับร่างกายเพื่อทดแทน Hyaluronic acid ที่เสื่อมสภาพไปได้เห็นผลและปลอดภัย โดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้ส่วนประกอบสำคัญเป็นกรดไฮยาลูรอนิกสังเคราะห์ ได้แก่ ฟิลเลอร์ (Filler) ที่เป็นสารเติมเต็มผิวชนิดชั่วคราว (Temporary filler) สกินแคร์บำรุงผิว รวมไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิกในรูปแบบที่ต้องรับประทาน ฯลฯ
Hyaluronic acid ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ด้วยคุณสมบัติสำคัญของ Hyaluronic acid หรือกรดไฮยาลูรอนิก ที่สามารถดูดซึมและกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัว จึงมีบทบาทสำคัญต่อการดูแลผิวและสุขภาพ ดังนี้
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำอยู่เสมอและช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ให้แข็งแรง ลดปัญหาผิวบอบบางและระคายเคืองได้ง่าย
- ช่วยพยุงโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ช่วยลดเลือนริ้วรอยแบบตื้นและริ้วรอยแบบลึกให้ดูจางลง พร้อมทั้งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ ในอนาคต
- ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง
- ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว โดยฟิลเลอร์มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาสุขภาพดีขึ้นอีกครั้ง
- นอกไปจากนี้ในทางการแพทย์ยังมีการใช้ประโยชน์จาก Hyaluronic acid เพื่อการบรรเทาอาการและรักษาโรคบางชนิด เช่น การผลิตตัวยาสำหรับฉีดเพื่อช่วยบรรเทาอาการข้อเสื่อม ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ รักษาตา รักษาภาวะต้อกระจก หรือการนำกรดไฮยาลูรอนิกมาใช้เป็นยาทาภายนอก เช่น ยาหยอดตา ป้องกันปัญหาตาแห้ง ยารักษาแผลในช่องปาก ยาบรรเทาอาการจากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ฯลฯ
ฟิลเลอร์ หัตถการเติมเต็มผิวจากกรดไฮยาลูรอนิกสังเคราะห์
ปัจจุบัน กรดไฮยาลูรอนิกที่ได้จากการสังเคราะห์ ถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อความงามกันอย่างแพร่หลาย ด้วยการนำมาใช้ฉีดเพื่อช่วยเติมเต็ม และแก้ไขปัญหาผิวหรือที่นิยมเรียกกันว่า ฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดฟิลเลอร์ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวตามจุดต่างๆ เช่น หน้าผาก ผิวรอบดวงตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ฉีดฟิลเลอร์คางและกรอบหน้า ฉีดฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์หลังมือ ฟิลเลอร์ปาก ฯลฯ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยทั้งแบบตื้นและแบบลึก รวมไปจนถึงการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับแต่งรูปหน้าให้ได้สมดุลที่สวยงามมากขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถคงผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคล
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์กลุ่มกรดไฮยาลูรอนิกสังเคราะห์
- ช่วยเติมเต็มและแก้ไขปัญหาผิวให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสียเวลาพักฟื้น
- ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (HA) เป็นสารที่มีความเข้ากันกับเนื้อเยื่อในร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์หลังการรักษา ทั้งยังเป็นสารเติมเต็มผิวที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลและมาตรฐาน อย. ประเทศไทย
- ฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูรอนิกสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ 100% ไม่ก่อให้เกิดการตกค้างสะสมภายในร่างกาย และสามารถฉีดฟิลเลอร์ซ้ำได้เรื่อยๆ เพื่อคงผลลัพธ์ผิวสวยกระชับ
- สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิคเดส (Hyaluronidase) หากไม่พอใจผลลัพธ์ที่ได้หลังการฉีดฟิลเลอร์หรือเกิดผลข้างเคียงบางประการหลังการรักษา
Hyaluronic acid อันตรายไหม
กรดไฮยาลูรอนิกชนิดสังเคราะห์ ถูกนับให้เป็นสารที่มีความปลอดภัยต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นสารที่สร้างเลียนแบบกรดไฮยาลูรอนิก ที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติในส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม ควรใช้สารสังเคราะห์ชนิดนี้ในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีม เอสเซนท์ เซรั่ม การฉีดฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูรอนิกเข้าสู่ชั้นผิวหนัง รวมไปจนถึงการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก เพื่อความปลอดภัยมากที่สุดควรใช้กรดไฮยาลูรอนิกภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแหล่งผลิตที่ไว้วางใจ ผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างครบถ้วนเท่านั้น
รีวิวฟิลเลอร์
สรุป
Hyaluronic acid หรือ กรดไฮยาลูรอนิก เป็นสารสำคัญชนิดหนึ่งที่ร่างกาย สามารถสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติที่บริเวณผิวหนังชั้นแท้ (Dermis) พบได้มากที่บริเวณเนื้อเยื่อภายนอกเซลล์ (Cell) มีคุณสมบัติเป็นสารดูดความชื้น (Humectant) ที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวจึงช่วยดูแลผิวให้ยืดหยุ่นชุ่มชื้น ผิวดูเปล่งปลั่งเรียบเนียนอยู่เสมอ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นกรดไฮยาลูรอนิกที่มีอยู่จะเริ่มลดลงจน ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยร่องลึก ผิวแห้งเสีย ขาดความยืดหยุ่น จึงมีการสังเคราะห์เลียนแบบกรดไฮยาลูรอนิก เพื่อใช้ทดแทนส่วนที่เสื่อมสภาพไปด้วยการใช้เป็นส่วนผสมหลักในสกินแคร์ ยารักษาโรค รวมไปจนถึง การใช้เป็นผลิตภัณฑ์เติมเต็มผิวหรือ ฟิลเลอร์ (Filler) ที่สามารถใช้ฉีดเข้าใต้ชั้นผิวตามจุดต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดการตกค้างสะสมภายในร่างกาย และสามารถคงผลลัพธ์ดูแลผิวสวยกระชับได้นาน 6-18 เดือน
สนใจฉีดฟิลเลอร์แก้ไขปัญหาผิว สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ และปรับแต่งรูปหน้าได้ที่ Wandee Clinic ทุกสาขา หรือแอดไลน์ @WandeeClinic เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือดูรีวิวฟิลเลอร์ ได้เลยค่ะ